พบกันอีกเช่นเคยนะคะ กับ ยัยมิ้นท์ช่างเม้าท์ วันนี้เรามาพูดคุยกันในเรื่อง การป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูก กันดีกว่านะคะ การป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกมีหลากหลายวิธี แต่วิธีที่นิยมมากที่สุดอีกวิธีหนึ่งก็คือ วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก
เมื่อไรจึงจะฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก

นอกจากนั้นยังแนะนำว่าว่าผู้ที่อายุตั้งแต่ 13-26 ปี ที่ไม่เคยฉีดวัคซีน หรือฉีดไม่ครบควรจะได้รับการฉีดวัคซีนทุกคน
จะต้องฉีดกี่เข็ม
ตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ฉีดสามเข็มคือ เข็มที่สองและสามห่างจากเข็มแรกสองและสี่เดือนตามลำดับ ทั้งนี้เพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิได้เต็มที่เพื่อป้องกันการติดเชื้อ HPV
- ครั้งที่1ให้ฉีดตามที่กำหนด
- ครั้งที่สองห่างจากครั้งแรก 1-2 เดือน
- ครั้งที่ 3 ห่างจากเข็มแรกประมาณ 6 เดือน
สำหรับผู้ที่อายุมากกว่า 26 ปี หรือมีเพศสัมพันธุ์แล้วยังได้ประโยชน์จากการฉีดวัคซีนหรือไม่
วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกจะมีภูมิต่อเชื้อ HPV type 6, 11, 16 และ 18 ดังนั้นหากท่านยังไม่ได้รับเชื้อดังกล่าว ท่านก็ยังได้ประโยชน์จากการฉีดวัคซีน สำหรับท่านที่ชอบเปลี่ยนคู่นอน ท่านมีโอกาสที่จะติดเชื้อไปแล้วอาจจะไม่ได้ประโยชน์จากการฉีดวัคซีน
เมื่อฉีดวัคซีนแล้ว...ยังมีโอกาสเป็นมะเร็งปากมดลูกอีกหรือไม่?
ปัจจุบันวัคซีนครอบคลุมได้ประมาณ ร้อยละ 71 (ไม่ครบร้อย) จึงยังมีโอกาสติดเชื้อไวรัสเอชพีวีชนิดอื่นๆ ได้ แต่การได้รับวัคซีนก็จะช่วยให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสเอชพีวี 16 และ 18 ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญได้ และช่วยลดโอกาสเกิดมะเร็งปากมดลูกให้น้อยลงได้ แต่ไม่ทั้งหมด
วัคซีนนี้อันตรายหรือไม่
มักจะมีอาการเจ็บบริเวณที่ฉีดเล็กน้อย ไข้ต่ำๆ เหมือนคนเป็นหวัด เวียนศีรษะเล็กน้อย ผลข้างเคียงรุนแรงก็พบได้น้อย
คนที่ฉีดวัคซีนแล้วจำเป็นต้องทำ PAP Smear หรือไม่
การตรวจภายในยังคงมีความจำเป็นแม้ว่าคุณได้ฉีดวัคซีนไปแล้ว เพราะการตรวจภายในจะสามารถตรวจโรคอื่นได้ด้วย
วัคซีนนี้จะให้ในคนท้องได้หรือไม่
ยังไม่มีการศึกษาถึงผลกระทบต่อทารก หากทราบว่าตั้งครรภ์หลังจากฉีดไปหนึ่งเข็ม แนะนำให้หยุดฉีดวัคซีนจนกระทั่งคลอดบุตรแล้วจึงฉีดต่อ
วัคซีนนี้จะป้องกันได้นานแค่ไหน
จากการศึกษาเบื้องต้นวัคซีนนี้สามารถอยู่ได้นาน แต่กำลังศึกษาว่าจำเป็นต้องฉีดวัคซีนกระตุ้นหรือไม่
ต้องตรวจทำ PAP Smear ก่อนการฉีดวัคซีนหรือไม่
ขึ้นกับประวัติการมีเพศสัมพันธ์ และประวัติการตรวจภายใน
- หากไม่มีประวัติมีเพศสัมพันธ์ก็สามารถฉีดวัคซีนได้เลย
- หากมีประวัติเพศสัมพันธ์มาก่อน และ ไม่เคยทำ PAP Smear ก็ให้ทำ PAP Smear เพื่อคัดกรองมะเร็งปากมดลูก

- หากผลปกติก็ให้ฉีดวัคซีนได้
- หากผลผิดปกติก็ให้รักษาตามขั้นตอน
หากตรวจภายในอย่างสม่ำเสมอก็ให้ฉีดวัคซีนได้
เป็นอย่างไรบ้างคะเรื่องที่นำมาฝาก การใช้วัคซีนป้องกันก็เป็นทางเลือกหนึ่ง แต่ก็อย่าลืมว่ามีปัจจัยอื่น ๆ อีกที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูกได้ เช่น การมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย การเปลี่ยนคู่นอนหลายคน เป็นต้น ดังนั้น เราควรตรวจภายในอย่างสม่ำเสมอทุก 6 เดือน - 1 ปี ไม่สูบบุหรี่ ใช้ถุงยางอนามัยเวลามีเพศสัมพันธ์เพื่อหลีกเลี่ยงโรคติดเชื้อทาง เพศสัมพันธ์ ไปพบแพทย์ หากมีตกขาวผิดปกติหรือมีเลือดออกผิดปกติจาก ช่องคลอด เท่านี้ก็เป็นการช่วยตัวเราเองให้ห่างไกลจากโรคมะเร็งปากมดลูกได้อีกเปาะนึ๊งแล้วคะ…...ยัยมิ้นท์ช่างเม้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น