วันจันทร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2554

วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก

     พบกันอีกเช่นเคยนะคะ กับ ยัยมิ้นท์ช่างเม้าท์ วันนี้เรามาพูดคุยกันในเรื่อง การป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูก กันดีกว่านะคะ การป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกมีหลากหลายวิธี แต่วิธีที่นิยมมากที่สุดอีกวิธีหนึ่งก็คือ วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก
                                                                                    
เมื่อไรจึงจะฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก
มีคำแนะนำจากองค์การอาหารและยาของอเมริกาแนะนำว่าให้เริ่ม ฉีดเมื่ออายุประมาณ 11-12 ปี แต่อาจจะฉีดเมื่ออายุ 9 ปีก็ได้ เนื่องจากเด็กในช่วงอายุดังกล่าวยังไม่มีการติดเชื้อ HPV และช่วงดังกล่าวเด็กจะสามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้อย่างเต็มที่
นอกจากนั้นยังแนะนำว่าว่าผู้ที่อายุตั้งแต่ 13-26 ปี ที่ไม่เคยฉีดวัคซีน หรือฉีดไม่ครบควรจะได้รับการฉีดวัคซีนทุกคน 
 
จะต้องฉีดกี่เข็ม
 
ตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ฉีดสามเข็มคือ เข็มที่สองและสามห่างจากเข็มแรกสองและสี่เดือนตามลำดับ ทั้งนี้เพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิได้เต็มที่เพื่อป้องกันการติดเชื้อ HPV
  • ครั้งที่1ให้ฉีดตามที่กำหนด
  • ครั้งที่สองห่างจากครั้งแรก 1-2 เดือน
  • ครั้งที่ 3 ห่างจากเข็มแรกประมาณ 6 เดือน
สำหรับผู้ที่อายุมากกว่า 26 ปี หรือมีเพศสัมพันธุ์แล้วยังได้ประโยชน์จากการฉีดวัคซีนหรือไม่

วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกจะมีภูมิต่อเชื้อ HPV type 6, 11, 16 และ 18 ดังนั้นหากท่านยังไม่ได้รับเชื้อดังกล่าว ท่านก็ยังได้ประโยชน์จากการฉีดวัคซีน สำหรับท่านที่ชอบเปลี่ยนคู่นอน ท่านมีโอกาสที่จะติดเชื้อไปแล้วอาจจะไม่ได้ประโยชน์จากการฉีดวัคซีน 
 
เมื่อฉีดวัคซีนแล้ว...ยังมีโอกาสเป็นมะเร็งปากมดลูกอีกหรือไม่?

ปัจจุบันวัคซีนครอบคลุมได้ประมาณ ร้อยละ 71 (ไม่ครบร้อย) จึงยังมีโอกาสติดเชื้อไวรัสเอชพีวีชนิดอื่นๆ ได้ แต่การได้รับวัคซีนก็จะช่วยให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสเอชพีวี 16 และ 18 ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญได้ และช่วยลดโอกาสเกิดมะเร็งปากมดลูกให้น้อยลงได้ แต่ไม่ทั้งหมด
 
วัคซีนนี้อันตรายหรือไม 
มักจะมีอาการเจ็บบริเวณที่ฉีดเล็กน้อย ไข้ต่ำๆ เหมือนคนเป็นหวัด เวียนศีรษะเล็กน้อย ผลข้างเคียงรุนแรงก็พบได้น้อย 
 
คนที่ฉีดวัคซีนแล้วจำเป็นต้องทำ PAP Smear หรือไม่
การตรวจภายในยังคงมีความจำเป็นแม้ว่าคุณได้ฉีดวัคซีนไปแล้ว เพราะการตรวจภายในจะสามารถตรวจโรคอื่นได้ด้วย 
 
วัคซีนนี้จะให้ในคนท้องได้หรือไม่

ยังไม่มีการศึกษาถึงผลกระทบต่อทารก หากทราบว่าตั้งครรภ์หลังจากฉีดไปหนึ่งเข็ม แนะนำให้หยุดฉีดวัคซีนจนกระทั่งคลอดบุตรแล้วจึงฉีดต่อ

วัคซีนนี้จะป้องกันได้นานแค่ไหน
 
จากการศึกษาเบื้องต้นวัคซีนนี้สามารถอยู่ได้นาน แต่กำลังศึกษาว่าจำเป็นต้องฉีดวัคซีนกระตุ้นหรือไม่ 
 
ต้องตรวจทำ PAP Smear ก่อนการฉีดวัคซีนหรือไม่
  
      ขึ้นกับประวัติการมีเพศสัมพันธ์ และประวัติการตรวจภายใน
  1. หากไม่มีประวัติมีเพศสัมพันธ์ก็สามารถฉีดวัคซีนได้เลย
  2. หากมีประวัติเพศสัมพันธ์มาก่อน และ ไม่เคยทำ PAP Smear ก็ให้ทำ PAP Smear เพื่อคัดกรองมะเร็งปากมดลูก
    • หากผลปกติก็ให้ฉีดวัคซีนได้
    • หากผลผิดปกติก็ให้รักษาตามขั้นตอน
หากตรวจภายในอย่างสม่ำเสมอก็ให้ฉีดวัคซีนได้
      เป็นอย่างไรบ้างคะเรื่องที่นำมาฝาก การใช้วัคซีนป้องกันก็เป็นทางเลือกหนึ่ง แต่ก็อย่าลืมว่ามีปัจจัยอื่น ๆ อีกที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูกได้ เช่น การมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย การเปลี่ยนคู่นอนหลายคน เป็นต้น  ดังนั้น   เราควรตรวจภายในอย่างสม่ำเสมอทุก    6  เดือน - 1 ปี ไม่สูบบุหรี่ ใช้ถุงยางอนามัยเวลามีเพศสัมพันธ์เพื่อหลีกเลี่ยงโรคติดเชื้อทาง เพศสัมพันธ์ ไปพบแพทย์ หากมีตกขาวผิดปกติหรือมีเลือดออกผิดปกติจาก ช่องคลอด เท่านี้ก็เป็นการช่วยตัวเราเองให้ห่างไกลจากโรคมะเร็งปากมดลูกได้อีกเปาะนึ๊งแล้วคะ…...ยัยมิ้นท์ช่างเม้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น